วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ลูกชุบ

ลูกชุบ

ลูกชุบ เป็นขนมประจำถิ่นของชนชาติโปรตุเกส ในแคว้น อัลการวี  (Aigaeve) ที่เรียกว่า Massapa’es โดยจะใช้เม็ดอัลมอนด์เป็นส่วนผสมหลัก กวนกับน้ำตาลและน้ำมันมะกอก ประดิษฐ์ปั้นเป็นรูปต่างๆ ใช้สำหรับประดับหน้าเค้ก 
ซึ่งเข้ามาในไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (..2199-2231)  โดยผู้นำเข้ามาคือ มาดามดอนญา มาเรีย กิอูมาร์ เดอ ปินา  หรือที่รู้จักกันในนาม ท้าวทองกีบม้า (เพี้ยนเสียงจาก ‘กิอูมาร์’) โดยได้นำถั่วเขียวมาใช้แทนเม็ดอัลมอนด์ กลายเป็นขนมลูกชุบ ซึ่งการทำลูกชุบมักนิยมทำภาย
ในวัง เพื่อรับประทาน และมอบให้แก่เด็กๆในช่วงเทศกาลสำคัญ


ลูกชุบไทยในปัจจุบัน     
          ปัจจุบันลูกชุบได้มีการทำอย่างแพร่หลายตั้งแต่ในระดับครัวเรือน จนถึงระดับโรงงาน โดยการดัดแปลงปั้นในลักษณะต่างๆ ให้มีความหลากหลายของรูปร่าง และสีสันมากขึ้น เช่น ปั้นเป็นรูปลูกหมู รูปนก และรูปหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการนำลูกชุบไปประดับตกแต่งบนหน้าเค้ก ไอศกรีม และการทำวุ้นลูกชุบ ซึ่งส่งผลให้มีผู้สนใจ และต้องการที่จะบริโภคลูกชุบเพิ่มมากขึ้น

แนวโน้มลูกชุบในอนาคต
          ประเทศไทย เริ่มมีการนำลูกชุบมาใช้ในงานและเทศกาลต่างๆเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น การปั้นเป็นรูปหัวใจในวันวาเลนไทน์ การจัดกระเช้าเพื่อมอบในวันปีใหม่ การจัดพานผลไม้มงคลเนื่องในวันเกิด ลูกชุบขนมไหว้พระจันทร์ เป็นต้น

สรุป
          ลูกชุบในอดีตนั้น ทำขึ้นเฉพาะภายในวัง เพื่อมอบให้แก่เด็กในโอกาสที่สำคัญ แต่ในปัจจุบันได้มีการทำอย่างแพร่หลายขึ้น มีการสร้างรายได้ ตั้งแต่ธุรกิจระดับครัวเรือน จนถึงระดับโรงงานอุตสาหกรรม และในอนาคต ลูกชุบจะเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีการส่งออก และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ๆ อีกทั้งยังมีการเปิดคอร์ส สอนทำลูกชุบ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ลูกชุบไว้ให้คงอยู่คู่กับสังคมไทยสืบต่อไป
          สุดท้ายนี้ ลูกชุบจะคงอยู่สืบไป หากทุกคนหันมาร่วมกันอนุรักษ์ขนมไทยไว้ไม่ให้สูญหาย ด้วยการหันมา "บริโภคขนมไทย" คนละไม้คนละมือ เพียงเท่านี้ขนมไทยก็จะอยู่คู่สังคมไทยสืบไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น